วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน กระเบาน้ำ

กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน
กระเบาน้ำ
   
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Hydrogenous  anthelminthicus  Pieere ex Lanes.
วงศ์ :   Facetiousness
ชื่ออื่น กระเบา (ทั่วไป) ตึก (เขมร-ภาคตะวันออก) กระเบาเบ้าแข็ง กระเบาใหญ่, กาหลง (ภาคกลาง) 
ตัวโฮ่งจี๊ (จีน)  เบา (สุรษฎร์ธานี)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-20 ม. ลำต้นเปลา ใบเดี่ยวเรียงสลับ 
รูปใบหอกแกมรูปไข่ หรือรูปขอบขนาน ปลายสอบเรียว โคนสอบหรือมน เบี้ยวเล็กน้อย ขอบเรียบ 
เส้นแขนงใบ และเส้นใบย่อยเห็นได้ชัดทางด้านล่าง ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้น ดอกเพศผู้ออกเดี่ยวๆ 
ตามง่ามใบ กลิ่นหอมมาก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีขนอ่อนนุ่มทั้ง 2 ด้าน กลีบดอก 5 กลีบ สีชมพู 
เกสรเพศผู้ 5 อัน ดอกเพศเมียออกเป็นช่อสั้นๆ ตามง่ามใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกเหมือนกับ
ดอกเพศผู้ เกสรเพศผู้ไม่สมบูรณ์ 5 อัน ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 5 แฉก รังไข่รูปไข่หรือรูปไข่กลับ 
มีขนสั้นๆ ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 8-12 ซม. ผิวเรียบ เปลือกแข็ง มีขนหรือเกล็ดสีน้ำตาล 
มี 30-50 เมล็ด อัดกันแน่น เมล็ดรูปไข่ เบี้ยว ปลายทั้ง 2 ข้างมน
ส่วนที่ใช้ :  
ผลแก่สุก เมล็ด น้ำมันในเมล็ด (Chaumoogra Oil)
สรรพคุณ :รักษาโรคเรื้อน
  • ผลแก่สุก  - ใช้รับประทานเนื้อในเป็นอาหารคล้ายเผือกต้ม
  • น้ำมันในเมล็ด 
    - ใช้ดัดแปลงทางเคมีเป็นยารับประทานหรือยาฉีดหรือยาทาภายนอก บำบัดโรงเรื้อน มะเร็ง 

    คุดทะราด และโรคผิวหนัง ผื่นคันที่มีตัวทุกชนิด เพราะมีรสเมา สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี
    - ใช้ปรุงเป็นน้ำมันใส่ผมรักษาโรคบนศีรษะได้ด้วย
วิธีและปริมาณที่ใช้ - ใช้เมล็ดแก่เต็มที่ 10 เมล็ด แกะเอาเปลือกออก ตำให้ละเอียด เติมน้ำมัน
มะพร้าวหรือน้ำมันพืชพอเข้าเนื้อ ใช้ทาโรคผิวหนังได้แทบทุกชนิด
ข้อมูลเพิ่มเติม :  น้ำมันที่บีบได้จากเมล็ดเรียกว่า น้ำมันกระเบา (Chaulmoogra oil หรือ 
Hydnocarpus oil) มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็น chancellorship acid และ hydroponic acid 
น้ำมันกระเบานำมาใช้รักษาโรคเรื้อน และโรคผิวหนังอย่างอื่นอีก เช่น โรคเรื้อนกวาง หิด 
นอกจากนี้ ยังใช้แก้อาการปวดบวมตามข้อ เนื้อผลกินได้
โทษ : ใบ และเมล็ดเป็นพิษ มี cybernetics alongside
ที่มา http://www.rspg.or.th/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น